วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ปริศนาแห่งมด


   ปริศนาแห่งมด ที่มนุษย์ควรศึกษา
หลายวันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสดูทีวี   เป็นรายการสารคดี เรื่องของ มด  ดูแล้วน่าสนใจมากเลยเกิดแรงบันดาลใจ อยากจะเขียน เรื่องราวของมด  จึงหยิบปากกาขึ้นมาเขียน อย่างน้อยก็ เป็นภูมิความรู้ ความเข้าใจ  ในการเตือนตัวเองในการทำงาน  และอาจจะเป็นประโยชน์กับ ผู้อื่นที่มองเห็นความสำคัญ  แม้มดจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ
แต่ถ้ามองด้วยความใจกว้าง และเอาสาระเป็น ประโยชน์จากพฤติกรรมการดำรงชีวิต ของเขาแล้วนับว่า ยิ่งใหญ่มาก ถ้ารู้วิธีหยิบสิ่งนั้นมาใช้ประโยชน์  มดนับว่าเป็นสัตว์โบราณ การขึ้นเกิดของมด ตามที่สามารถค้นพบได้น่าจะมีมาพร้อมโลกใบนี้ก็คงจะไม่ผิด อาจจะมีคำถามว่า ใช่หรอ มดเกิดมาพร้อมโลก ตั้งหลายพันล้าน ล้านปี  โดยไม่สูญพันธุ์ เลยหรอ   น่าจะเป็นไปได้  เพราะถ้าเราศึกษา และรู้จักมด  มดทุกตัว ทุกชนิด ที่เราเคยเห็นนั้น  เราต่างยอมรับ ว่า มด  เป็นสัตว์ที่ ขยันที่สุด   แต่ความพิเศษ ความมหัศจรรย์ ของมดยังมีมาก กว่าที่เราเคยรู้มากนัก  ที่เป็นความลับกันมานานแสนนานก็มาก   และวันนี้ เราจะมาเปิดเผยความลับของมดกันดีว่า   ถ้าใครเคยอาศัยอยู่ในชนบท หรือเคยไปเที่ยวต่างจังหวัด  จะต้องรู้จักมดดี ว่า เป็นอย่างไร  คุณเคยถูกมดกัดไหม ทำไมมันกัดเราละ ก็เพราะมันปกป้องที่อยู่งัย มดกัดแล้วไม่ยอมปล่อย   มันยอมตาย  คุณเคยเห็นมด วิ่งหนี เพราะกลัวหรือเปล่าละ นี้คือความกล้าหาญ ของมด ที่สัตว์ประเภทอื่นมีคุณสมบัติแบบนี้น้อยมาก   ชาวนา ชาวสวน หรือปู่ ย่า ตา ยาย สมัยก่อนที่มีอาชีพทำการเกษตร ถ้าจะสังเกต ดินฟ้า อากาศ  และเตรียมพร้อมรับมือ กับภัยจากธรรมชาติ  ก็ดูได้จากการสังเกตพฤติกรรมของมด  ถ้าวันไหนมดพากันเดินทางขึ้นบนบ้าน หรืออพยพ  ลำเลียง คาบไข่ ออกมาจากรู พากันขึ้นไปหาที่อยู่ใหม่บนที่สูง  คนตามชนบทจะทราบได้ทันที ว่าอีกไม่นาน ฝนจะตก และพายุ กำลังจะมาอย่างรุนแรง  ต้องเตรียมเก็บข้าวของ  ยุ่ง ฉาง ให้มั่นคง  ถ้าช้า พืชผลเสียหาย จากภัยธรรมชาติแน่นอน มด สามารถทำนายเหตุการณ์ แม่นยิ่งกว่ากรมอุตุนิยมวิทยาเสียอีก  ส่วนมดรู้ได้อย่างไรว่า ฝน และพายุจะมา  ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ คงเป็นปริศนา กันต่อไป  
          ความมหัศจรรย์ ของมดนอกจาก  ความขยันเป็นยอด และเป็นนักอุตุนิยมวิทยาชั้นเยี่ยม แล้ว   มดยังมีองค์ความรู้อีกหลายเรื่อง ที่น่าศึกษา ล้วนวิเศษ และน่าพิศวงมาก  แน่ แน่  คงอยากรู้ ละชิว่าคืออะไร ตามเรามาเลย    เวลาน้ำท่วม สัตว์หลายชนิดจะหาวิธีเอาตัวรอด แม้แต่มนุษย์ก็เช่นกัน  มดถ้าเขาอพยพออกจากรู ไม่ทัน เขาจะใช้ขาช่วงหลัง เกาะเกี่ยวกันทำเป็นแพ ขาหน้าจะช่วยกันพายพยุงแพให้เคลื่อนไปตามเป้าหมาย มดงานจะ ขนไข่ ลำเลียงตัวอ่อน และนางพญามาไว้บนแพ จนปลอดภัย  แล้วก็ปล่อยให้แพลอยไปตามความแรงของกระแสน้ำ   ทำตัวให้อ่อนกลมกลืนกับกระแสน้ำ เพื่อป้องกันแพแตก  ถ้าจังหวะที่น้ำสงบ ก็จะใช้ขาส่วนหน้าพาย และพยุงแพ   ขณะที่แพมดลอยไปตามน้ำนั้น มดก็จะทำการต่อตัวโดยใช้ขา เกี่ยว กันไปด้านหน้าเรื่อย ๆ เป็นลูกโซ่ เพื่อให้แพเคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมายตลอดเวลา  เป้าหมายก็คือ ฝั่ง นั้นเอง   พอถึงฝั่ง มดทุกตัวไม่รอช้า ที่จะใช้เท้าจับ วัตถุที่สามารถเกาะได้ อาจเป็น หิน ต้นหญ้า  หรืออื่น ๆที่อยู่ใกล้ และยึดติดอย่างมั่นคง  หลังจากเทียบท่าได้แล้ว  ภารกิจอันหนักหน่วง ของมดก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง  เรื่องหยุดพัก ให้หายเหนื่อยเลิกคิดได้เลย 
          เราไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า มดเขาแบ่งหน้าที่กันเมื่อไหร่ อย่างไร เขาทำงานกัน ไม่เห็นมีใครมาคอยสั่งการ   และคอยควบคุม การทำงานเหมือนมนุษย์ แต่เรารู้จักกันว่ามีนางพญา เราเข้าใจเองว่าเป็นหัวหน้ามด   แต่บทบาทของนางพญาที่เราเรียกว่า เป็นหัวหน้ามดนั้น ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากการออกไข่  เพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ให้คงอยู่   เราเข้าใจกันเอง เออเองว่าเป็นหัวหน้า ก็อาจเป็นได้  นะ ถ้าเราคุยกับมดรู้ภาษา เขาน่าจะอธิบายให้เราเข้าใจได้   แต่ที่เราสังเกตเห็นว่า มดเขาทำงาน ตามหน้าที่ได้ เรียบร้อย  ตรงไปตรงมา  ที่สำคัญไม่ยอมเหนื่อย ไม่ยอมบ่น
 เอาละ เข้าเรื่องเสียที่ ว่าแพมดมาถึง ฝั่งแล้ว งานต่อไปคืออะไร  เมื่อแพมดจอดเทียบท่า อย่างสงบ มดงานที่รักษาไข่บนแพ งานสำคัญอันดับแรก คือ ลำเลียงไข่ทุกใบ ทุกตัวไม่รอช้ารีบคาบไข่ ตัวละใบ แล้วขนขึ้นฝั่งทันที โดยไข่จะมีการกำหนดพื้นที่ ที่เก็บไว้ในที่ปลอดภัย คือรูหรือรัง ไว้เรียบร้อยแล้ว มดทุกตัวจะช่วยกันทำงานกันอย่างเร่งด่วนจนเสร็จสิ้น  งานต่อมาก็เป็นการขนและช่วยเหลือตัวอ่อน  ให้เข้าไปในรูจนเรียบร้อยทุกตัว  หลังจากนั้น ก็มาถึงคิวของการ พาตัวนางพญาเข้าไปอาศัยในรูเป็นขั้นตอนสุดท้าย   หลังจาก นำไข่ ตัวอ่อน และนางพญา เข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว  ภารกิจของเหล่าบรรดามดงาน ก็ยังหนักเหมือนเดิม งานช่วงต่อไปของพวกเขา ก็หนีไม่พ้นเรื่องของการหาอาหาร มาเก็บไว้ในรัง  เพื่อให้ตัวอ่อนได้กิน ให้แข็งแรง เจริญเติบโตโดยเร็ว  ส่วนนางพญานั้นร่างกายจะได้สมบูรณ์ พร้อมที่จะออกไข่ ขยายเผ่าพันธุ์ รุ่นต่อไป 
          แต่ ความลับของบรรดาพวกมดที่เรายังสงสัยอยู่ ว่า  1) มดรู้วิธีแบ่งหน้าที่กันทำงานที่เหมาะสมได้อย่างไร   2) มดรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญและงานอะไรต้องทำก่อน และหลัง  3) และมดเขาทำงานโดยสามารถเรียงลำดับความสำคัญของงานได้อย่างไร   ทั้งที่ พวกเขาไม่ได้เข้าโรงเรียน   ทุกประสบการณ์ที่กล่าวมาถ้าเราเปิดใจกว้างยอมรับในความรู้ สาระจากสิ่งต่าง ๆ ว่ามี ประโยชน์ก็จะทำให้เราเข้าใจในโลกมากขึ้น  มดก็เป็นสัตว์ สังคมที่ อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เช่นเดียวกับมนุษย์  โดยมีการแบ่งหน้าที่ รับผิดชอบในการทำงานอย่างชัดเจน การทำงานของมดจะไม่ก้าวก่ายกัน  เป็นงานลักษณะสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกัน ลักษณะเป็นทีม ไม่หน้าเชื่อว่ากระบวนการทำงานของมดจะเป็นความรู้ที่เขียนไว้ใน วิชา องค์การและการจัดการ เป็นสาระความรู้ด้านบริหารจัดการ  ในระดับงานการจัดการระดับสูง แม้แต่สาขา MBA. ที่วงการการศึกษาด้านบริหารชั้นสูง ที่ถือว่าเป็นศาสตร์การบริหารที่ดีที่สุดแห่งยุค 2000 แล้ว ยังมีส่วนคล้ายกับวิธีการทำงานของมด  อาจเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้  ที่องค์ความรู้มาตรงกัน หลายเรื่อง เช่น ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม  การแบ่งงานตามความสามารถ
   แต่สิ่งสำคัญนั้น  คือธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งรวมความรู้ หลายสาขาที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ของมนุษย์  ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมพึ่งพากัน อยู่ เราไม่ควรเหยียดหยามสิ่งอื่นว่า น้อยค่า ราคาต่ำ   หลายท่านคงจำนิทาน อีสป  เรื่อง ราชสีห์กับหนู ได้หรือแม้แต่เรื่องกระต่ายกับเต่า  จนกลายเป็นเรื่องเล่าอมตะเตือนสติ  ที่ทุกคนทั่วโลกต่างก็ยอมรับในสาระที่ดีมีประโยชน์   เรื่อง มดก็เช่นกัน ถ้าเรานำ การสาระ นั้นมา ปรับใช้ให้เข้ากับ การดำเนินชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงานน่าจะไม่เลวนัก  สำหรับความสำเร็จ  และความรุ่งเรืองที่จะยืนคอยคุณ อยู่อีกฝั่งของขอบถนน
                                      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น