วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

งานเขียน

งานเขียน

                งานเขียนเป็นเรื่องของคนชอบ และเป็นเรื่องของอาชีพ คำว่าการเขียนเป็นอาชีพนั้น ก็ย้อนกลับมาว่าเขียนเพราะชอบเขียนหรือเขียนเนื่องจากความจำเป็น โดยเพื่อหารายได้ก็ได้ แต่การเขียนของอย่างหลังนี้อาจจะไม่เป็นการทำทำที่ไม่ยืนนาน เพราะไม่ชอบในที่สุดก็อาจเลิกเขียนไป  เพราะการที่ทำอะไรไม่ชอบในที่สุดก็ต้องเลิกอย่าแน่นอน แต่คนที่ชอบเขียน อยู่ที่ไหน ทำอะไรก็เขียน  ยิ่งถ้าเขียนมากก็ยิ่งรักและถนัดในการเขียน เรียกได้ว่าแม้ขณะหลับก็ยังฝันว่าตัวเองได้เขียน



                บางท่านถ้าเดินทางไปตามท้องถนนคงได้เห็นสติ๊กเกอร์ ติดท้านรถบางคัน เขียนคำว่า จัยมันรัก  ซึ่งคำนี้เป็นภาษาที่เขียนใช้กันในวงการวัยที่เขียนต้องการให้เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้เกิดความโดดเด่น โดนใจหรืออะไรผู้เขียนหรือกำหนดเขียนคำนี้  ต้องมีเป้าหมายในการเขียนแน่นอน คนที่เขียนเรื่องราวต่าง ๆ  ก็ต้องมีใจรักเช่นกัน ถ้าใจมันไม่ชอบไม่รักแล้ว ก็คงไม่อยากทำสิ่งนั้นไม่ว่าเรื่องอะไร





                งานเขียนเป็นเรื่องของความรัก ความชอบ แล้วก็ทำบ่อย ๆ เมื่อทำบ่อย ๆ ก็กลายเป็นความถนักหรือเชี่ยวชาญ นั้นเอง เหมือนกับการเรียกชื่อ ตำแหน่งครูผู้สอนในสถานศึกษา ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เรียกตำแหน่งผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่สอน ในครั้งแรกที่เข้ามาทำหน้าที่ ว่า ครูผู้ช่วย ต่อมาหลายปีก็เลื่อนตำแหน่ง เรียกว่าครูชำนาญการ  เป็นครูผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วถ้ามีอะไรบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ  ก็จะเกิดความรู้ แตกฉาน จนกลายเป็นผู้เก่ง หร์อเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น  สำหรับผู้ที่เขียนบ่อย ๆ ในเรื่องใด ๆ ก็ตาม จะมีความเก่งในเรื่องนั้น ๆ เช่นกัน เหมือนคำโบราณของไทยที่ท่านได้กล่าวไว้ว่า รู้อะไร รู้กระจ่างทางเดียว  แต่ให้เชี่ยวชาญเถิด จะเกิดผล

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

กฎหมายแรงงานต่างด้าว


ปี พ.ศ.2559 เป็นปีที่ประเทศไทยได้เข้าสู่กลุ่มความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่เกรียกว่า สมาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ และผลจากความร่วมมือกันนี้เองทำให้ชาวต่างชาติในประเทศเพื่อนบ้านของไทยเข้ามาทำงานในประเทศมากขึ้น ยิ่งนับวัน ชาวพม่า ลาว กัมพูชา และชาวเวียดนามจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะชาวพม่าและกัมพูชา จะเข้ามาทำงานใช้แรงงานมากที่สุด สิ่งที่ทำให้ชาติเหล่านี้หลั่งไหลเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้นก็มีความเหมาะสมหลายประการ
ประการแรก คนไทยในปัจจุบันไม่นิยมทำงานหนัก ประเภทใช้แรงงาน โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้าง คนไทยไม่ชอบทำจึงเป็นช่องว่างให้แรงงานเพื่อนบ้านมีโอกาสได้ทำงานประเภทนี้สูง ประการต่อมา เป็นเรื่องค่าแรง รายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 300 ต่อวัน และประการสุดท้ายที่ชาวต่างชาติชอบมากคือ เรื่องของสุขภาพการรักษาพยาบาลที่ได้คุณภาพ และเชื่อถือได้ สะดวกสบายครบถ้วนมากกว่าบ้านเกิดของเขานั่นเอง ด้วยเหตุนี้ และที่สำคัญ นายจ้างชาวไทยก็กำลังขาดแรงงานประเภทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงนิยมหาแรงงานต่างชาติให้มาช่วยงาน ซึ่งในอดีต นายจ้างขาดแคลนแรงงานเหล่านี้เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องหาแรงงานต่างชาติมาทดแทนแรงงานที่ขาดหายได้ ทำอย่างไรก็ได้ที่จะได้แรงงานมาทำงาน ไม่ว่าแรงงานเหล่านั้นจะถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตาม เพราะเจ้าของกิจการดังกล่าวรอไม่ได้ เมื่อแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศมากๆ ย่อมเกิดปัญหามากมาย ทั้งเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ชื่ออะไร เพศชายหรือเพศหญิง ทำให้ยากต่อการติดตามตัวมาสอบสวน เมื่อกระทำความผิดหรือมีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่ออันตรายเกิดขึ้น
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านแรงงานของผู้ประกอบการและเพื่อความสงบเรียบร้อยในการป้องกันปัญหาจากแรงงานต่างด้าว อีกทั้งสนองนโยบายของสมาคมอาเซียนที่เข้าสู่ยุค AEC ทางภาครัฐจึงได้ออกมาตรการบริหารแรงงานต่างด้าว ให้กฎหมายและได้ประกาศกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการใช้แรงงานต่างด้าวและแรงานต่างด้าวจะต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามระเบียบการทำงานและความเรียบร้อยของสังคม ซึ่งในเรื่องแรงงานต่างด้าวนี้ได้มีมติของคณะรัฐมนตรีได้ประกาศเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 ให้แรงงานในสถานประกอบการต่างๆมาลงทะเบียนแรงงานภายในเวลา 120 วัน โดยกำหนดให้ลงทะเบียนแรงงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา และเมื่อขึ้นทะเบียนถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทยได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 เป็นเวลา 2 ปี
วันที่ 29 กรกฎาคม 2559 เป็นวันสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้แรงงานต่างชาติมาลงทะเบียน ขึ้นทะเบียนสำหรับแรงงานต่างชาติที่ประสงค์จะทำงานในราชอาณาจักรไทย มาถึงวันนี้ก็เลยกำหนดมาแล้ว แต่ก็ยังมีแรงงานบางส่วนที่ไม่สามารถลงทะเบียนไปลงทะเบียนในวันที่กำหนดดังกล่าวได้ ก็คงจะมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกันทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ยิ่งทางรัฐบาลประกาศอย่างจริงจังว่า “ไม่ขยายต่อบัตรต่างด้าว เจอผิดเป็นจับ ปรับเป็นแสน” แต่ก็พอยังมีความหวังตรงประโยคสุดท้ายที่กล่าวว่า “ต่อบัตรไม่ทันทำ MOU ได้” ก็หมายความว่า ยังพอมีช่องทางให้หวังได้ทำงานต่อ นายจ้างก็โล่งอกว่า กิจการจะไม่เสียหาย
การต่อบัตรอนุญาตการทำงาน สำหรับแรงงานที่สมบูรณ์ที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา คงเป็นหลักประกันความสบายใจทั้งผู้ประกอบการว่าการทำงานจะไม่มีปัญหาในระยะเวลาที่กำหนด ก็ไม่ต้องกังวลกับการถูกตรวจจับของเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้สามารถทำงานสร้างผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้มากขึ้น ส่วนแรงงานที่ยังไม่สามารถขึ้นทะเบียนตามเวลาทีกำหนด เนื่องจากเหตุผลนานาประการ ทั้งนายจ้างและลูกจ้างก็คงต้องรอไปอีกสักระยะ เพราะถึงอย่างไร ทางภาครัฐก็คงจะเปิดช่องทางให้ลงทะเบียนกันอีกครั้งเนื่องจากเพราะถึงอย่างไร แรงงานเหล่านี้ก็มีผลต่อการผลิตของเศรษฐกิจระดับชาติที่จำเป็นต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่ออนาคตต่อระบบเศรษฐกิจระยะยาว แต่ก็ต้องรอกันไปก่อน เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมายเพื่อความเรียบร้อยของสังคมนั่นเอง แต่ที่ชัดคือ มีแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาสู่ระบบการผลิตจำนวนมาก
เมื่อนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวมารายงานตัวขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว หลังจากวันครบกำหนดคือ หลังวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป ทางภาครัฐก็จะบังคับใช้กฎหมายกับแรงงานที่ไม่ถูกต้องทันทีตามที่หน่วยงานภาครัฐประกาศว่า

“รัฐระบุชัด... ไม่ขยาย !!! ต่อบัตรต่างด้าว
เจอผิดเป็นจับ ปรับเป็นแสน
ต่อบัตรอนุญาตไม่ทัน
29 กรกฎาคม 59 ทำ MOU ได้!”

เมื่อประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ทางภาครัฐจะเริ่มจับกุมแรงงานต่างด้าวทันที ส่วนนายจ้างที่ลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวไม่ได้รับใบอนุญาต จะจ่างแรงงานนั้นไว้ทำงานไม่ได้ มีความผิดตามพระราชบัญญัติการทำงานต่างด้าว พ.ศ.2557 มีความผิดปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท ต่อแรงงานต่างด้าวหนึ่งคน ส่วนแรงงานที่ลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิด 5 ปี และปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนรายละเอียดต่างๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานในเขตกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 – 10 ได้ในเวลาราชการ

ดังนั้น ทางภาครัฐโดยทางกรมการจัดหางานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ทำงาน ผู้ใช้แรงงานโดยตรง จึงได้ออกกฎระเบียบต่างๆ ออกมาเพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติงานให้เป็นไปในทางทางเดียวกัน ทางสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวจึงได้ออกเอกสารเพื่อให้นายจ้างและลูกจ้างแรงงานต่างด้าว สัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ได้อ่าน และได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ ชื่อว่า “ข้อควรรู้ สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา” ซึ่งประกอบด้วยกัน 3 เล่ม ที่นายจ้างและลูกจ้างต้องอ่าน คือ ข้อควรรู้สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าว ไทย – ลาว, ไทย – พม่า แบะ กัมพูชา ไว้ให้ได้ศึกษากัน โดยฉบัยนี้ขอเริ่มด้วยข้อควรรู้สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าว พม่า กันก่อน

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

TABLE FORM ตัวช่วยสำคัญ การสร้างอาคารสูง


         อุตสาหกรรมการก่อสร้างของประเทศไทยได้เข้าไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ประเทศดูไบ  อินเดีย จีน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศพม่า ประเทศลาว และ






ประเทศเวียดนาม ซึ่ง เรียกได้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพและความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างแบบครบวงจรในอาเซียน ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้น ด้านการปลูกอาคารสูง เช่น คอนโด โรงแรม  เป็นหลัก

















การสร้างอาคารสูงจะมีการก่อสร้างที่รวดเร็วและแข็งแรง มั่งคง มากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาระบบ Post tension หลายคนสงสัยว่า Post tension คืออะไร Post tension คือ การก่อสร้างแบบใช้ คอนกรีตอัดแรงกำลังสูง ซึ่งพื้น Post Tension โดยทั่วไปคือระบบพื้นคอนกรีตที่มีเหล็กเส้นที่รับแรงดึงได้มากๆ เสริมอยู่ภายใน และทำการดึงเส้น เหล็กนั้นให้ตึงเมื่อหล่อคอนกรีตเสร็จแล้ว เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของพื้น การที่มีเหล็กแรงดึงดูดเสริมและดึงอยู่ในพื้นคอนกรีตนี่เอง ทำให้โครงสร้างชนิดนี้มีหน้าตัดที่บางลง และไม่จำเป็นต้องมีคานมารัดหัวเสาเพื่อการถ่ายน้ำหนัก จากพื้นสู่เสาด้วย ราคาค่าก่อสร้างก็ถูกลง และยังลดความสูงระหว่างชั้นได้ด้วย พื้นระบบ Post Tension คือพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง ที่จะมีการดึงเหล็กเส้นที่อยู่ในคอนกรีตภายหลังเทคอนกรีตแล้วเสร็จ เพื่อให้โครงสร้างสามารถรับแรงได้มากกว่าปกติ จนทำให้โครงสร้างของ พื้นเป็นเพียงแผ่นคอนกรีตบาง ๆ (20-28 ซม.) ไม่มีคานมารับตามช่วงเสา ทำให้พื้นระบบ Post Tension สะดวกกว่าระบบมีคานแบบเดิม  และลดค่าใช้จ่ายในงานโครงสร้างได้ มากขึ้น

            เนื่องจากพื้น Post-Tension เป็นระบบพื้นซึ่งดึงลวดอัดแรง จึงจำเป็นต้องร้อยลวดอัดแรงไว้ในท่อ Galvanized เพื่อไม่ให้คอนกรีตจับตัวกับลวดอัดแรง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ที่มีลักษณะต่างกัน ดังนี้



1) Bonded System เป็นระบบมีแรงยึดแหนี่ยว ระหว่าง PC Strand กับพื้นคอนกรีตโดยหุ้มด้วยท่อเหล็กที่ขึ้นเป็นลอน ประกอบด้วย Multi Strand ท่อ 1 ท่อร้อยด้วยลวด 2, 3, 4 หรือ 5 เส้น ท่อ เป็นท่อ Galvanized Duct Anchorage 1 set / ลวด 2, 3, 4 หรือ 5 เส้น ต้องมีการอัดน้ำปูนเข้าไปให้เต็มท่อหลังการดึงลวด (GROUTING) เพื่อให้จับยึดระหว่าง PC Strand กับท่อเหล็ก จะใช้กับอาคารที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า
สำนักงาน และโครงสร้างขนาดใหญ่


  2) Un Bonded System เป็นระบบไม่มีแรงยึดแหนี่ยว ระหว่าง PC Strand กับพื้นคอนกรีตแต่จะยึดที่บริเวณหัว Anchorage ที่ปลายพื้นทั้ง 2 ข้างเท่านั้น ประกอบด้วย Mono Strand ท่อ 1 ท่อ ร้อยด้วยลวด 1 เส้น ท่อ เป็นท่อ PE. Anchorage 1 set / ลวด 1 เส้น ลวดเคลือบด้วยจารบี ระบบนี้ไม่เหมาะสำหรับอาคารที่จะมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้งานในอนาคตระบบนี้มักใช้กับอาคารที่จอดรถหรืออาคารขนาดเล็กที่มักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งาน  และเนื่องจากพื้นระบบ Post เป็นระบบพื้นที่ไร้คาน จึงง่ายต่อการเข้าแบบจึงมีการออกแบบ Form work ท้องพื้นที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถใช้งานได้หลายครั้ง เรียกว่า Table Form ซึ่งทาง บริษัท ไทย คอนส์ แอนด์ บิลดิ้ง เมนูแฟ็คเจอริ่ง จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนา Table Form ขึ้นมาใหม่ และแบ่งรูปแบบของ Table Form ให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักได้ ดังนี้




















ซึ่งการคำนวนน้ำหนักการรับพื้นที่แม่นยำ และจำนวนการใช้  Table From  ต้องได้รับการถอดแบบจากวิศวกรผู้ชำนาญงานโดยเฉพาะ และทาง“ไทย คอนส์” เองได้ทำการอบรมทีมวิศวกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียนรู้และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในอนาคต

* * * * ***********************************

บทความ SEO วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์



บทความ SEO วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์
ตอน  จุดเด่น จุดด้อย โทรศัพท์มือถือ
(ตอนที่ 1)

โทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ในอดีตที่มีโทรศัพท์มือถือใช้กัน นับวันยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้น มีความเกี่ยวพันกับการดำเนินชีวิตทุกเพศทุกวัย เรียกได้เต็มปากว่า โทรศัพท์มือถือกับมนุษย์แยกทางกันไม่ได้ จะต้องเดินทางร่วมกันตลอดเวลาไม่มีใครกล้าโต้แย้ง โทรศัพท์มือถือยิ่งนับวันจะสนองตอบความต้องการของมนุษย์ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ  และนับวันจะเป็นมากยิ่งกว่าการเป็นโทรศัพท์ เนื่องจากโทรศัพท์มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการอยู่ตลอดเวลานั้นอง ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ยี่ห้อของคู่แข่งเขาก็พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราหยุดก็หมายความว่าเราล้าหลังเขาทันที่ ผู้บริโภคคงเข้าใจความหมายนี้ดี โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภคใยยุคประเทศไทย 4.0 ยิ่งแรงและหลากหลาย ไม่มีคำว่าภักดีกับสินค้านั้นตลอดกาล พวกเขาจะมองหาสินค้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องโทรศัพท์มือถือ นอกจากจะใช้โทรแล้ว ถ้าใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นที่กำลังนิยม และราคาแพงด้วยแล้ว มันเป็นตัวที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความพอใจมาก  ยิ่งถ้าใช้โทรศัพท์มือถือที่กำลังเป็นที่นิยม และเป็นที่ต้องการของคนส่วนมากนั้น มันทำให้ผู้ใช้ได้รับการยอมรับจาก สังคมรอบด้าน  มีแสดงถึงรสนิยม แสดงถึงฐานะ นอกจากนั้นโทรศัพท์มันยังบ่งบอกถึงการศึกษา และอาชีพของผู้ใช้ในปัจจุบันด้วย  
          ด้วยเหตุผลตามพฤติกรรมของผู้บริโภคนี้เอง ทางผู้ผลิตโทรมือถือจากค่ายต่างๆ ต่างก็เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ถูกใจมากที่สุด เช่น รูปแบบ สี  เมนูต่าง ๆ ที่จำเป็น วิธีการใช้ที่ง่าย  รวมทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพของการใช้งาน  เพื่อให้ตรงใจกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือให้มากกว่าคู่แข่ง อยู่ตลอดเวลาจน อาจเรียกได้ว่า มีทุกเรื่อง มีให้ครบ ในโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว
            โทรศัพท์มือถือหลายค่ายที่ออกมาสู่ท้องตลาดต่างก็มี ประวัติอันยาวนาน มาหลายยี่ห้อ โทรศัพท์บางยี่ห้อ บางรุ่นได้รับความนิยมสูงสุดใคร ๆ ก็อยากมีไว้ในครอบครอง แต่ปัจจุบันแม้แจกฟรีคนยังเมิน เพราะอะไร  และโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อ ในอดีตแม้แจกฟรีคนก็ยังเมินเช่นกัน   มันเป็นเพราะอะไร โจทย์ข้อนี้เจ้าของค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังกล่าวคงจะรู้ดี และนำไปพัฒนา และหาสาเหตุแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นรอง และเสียเปรียบนั้น ให้กลับมาทวงแชมป์คืนมาให้ได้ โดยนำจุดเด่น จุดด้อย ของคู่แข่งในวงการโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่าง ที่เลิกผลิตเพราะอะไร  หรือไม่เลิกจากผู้ธุรกิจแต่ก็ไม่เติบโต กลายเป็นคนผอมแห้งหิวโซ จวนเจียนจะตามอยู่ตลอดเวลา ได้แต่มองการพัฒนาของคู่แข่งที่กอบโกยกำไร สร้างส่วนแบ่งทางการตลาดมากเรื่อย ๆ  จนทำให้เราไม่มีที่ยืนเป็นโลกของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ได้อีกต่อไป  ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็เลิกกิจการตั้งแค่ตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ ถ้าเราไม่สู่เขาอีกต่อไป เพราะจะทำให้การขาดทุนน้อยกว่าที่จะทำให้การขาดทุนสะสมไปเรื่อย แล้วธุรกิจของท่านจะมีความหมายอะไร  หรือถ้าสู่ต่อก็ต้องคิดใหม่ สลัดความรู้เดิม ๆ ที่ไม่มีประโยชน์ออกไปมาเติมความรู้ใหม่ที่จะทำให้กิจการเติบโตในวงการโทรศัพท์ได้อีกครั้ง แล้วเราจะทำยังละ แล้วเราจะมาคุยกันอีกในบทต่อไป บทนี้ สวัสดี ครับ