วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

กฎหมายแรงงานต่างด้าว


ปี พ.ศ.2559 เป็นปีที่ประเทศไทยได้เข้าสู่กลุ่มความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่เกรียกว่า สมาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ และผลจากความร่วมมือกันนี้เองทำให้ชาวต่างชาติในประเทศเพื่อนบ้านของไทยเข้ามาทำงานในประเทศมากขึ้น ยิ่งนับวัน ชาวพม่า ลาว กัมพูชา และชาวเวียดนามจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะชาวพม่าและกัมพูชา จะเข้ามาทำงานใช้แรงงานมากที่สุด สิ่งที่ทำให้ชาติเหล่านี้หลั่งไหลเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้นก็มีความเหมาะสมหลายประการ
ประการแรก คนไทยในปัจจุบันไม่นิยมทำงานหนัก ประเภทใช้แรงงาน โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้าง คนไทยไม่ชอบทำจึงเป็นช่องว่างให้แรงงานเพื่อนบ้านมีโอกาสได้ทำงานประเภทนี้สูง ประการต่อมา เป็นเรื่องค่าแรง รายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 300 ต่อวัน และประการสุดท้ายที่ชาวต่างชาติชอบมากคือ เรื่องของสุขภาพการรักษาพยาบาลที่ได้คุณภาพ และเชื่อถือได้ สะดวกสบายครบถ้วนมากกว่าบ้านเกิดของเขานั่นเอง ด้วยเหตุนี้ และที่สำคัญ นายจ้างชาวไทยก็กำลังขาดแรงงานประเภทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงนิยมหาแรงงานต่างชาติให้มาช่วยงาน ซึ่งในอดีต นายจ้างขาดแคลนแรงงานเหล่านี้เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องหาแรงงานต่างชาติมาทดแทนแรงงานที่ขาดหายได้ ทำอย่างไรก็ได้ที่จะได้แรงงานมาทำงาน ไม่ว่าแรงงานเหล่านั้นจะถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตาม เพราะเจ้าของกิจการดังกล่าวรอไม่ได้ เมื่อแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศมากๆ ย่อมเกิดปัญหามากมาย ทั้งเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ชื่ออะไร เพศชายหรือเพศหญิง ทำให้ยากต่อการติดตามตัวมาสอบสวน เมื่อกระทำความผิดหรือมีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่ออันตรายเกิดขึ้น
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านแรงงานของผู้ประกอบการและเพื่อความสงบเรียบร้อยในการป้องกันปัญหาจากแรงงานต่างด้าว อีกทั้งสนองนโยบายของสมาคมอาเซียนที่เข้าสู่ยุค AEC ทางภาครัฐจึงได้ออกมาตรการบริหารแรงงานต่างด้าว ให้กฎหมายและได้ประกาศกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการใช้แรงงานต่างด้าวและแรงานต่างด้าวจะต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามระเบียบการทำงานและความเรียบร้อยของสังคม ซึ่งในเรื่องแรงงานต่างด้าวนี้ได้มีมติของคณะรัฐมนตรีได้ประกาศเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 ให้แรงงานในสถานประกอบการต่างๆมาลงทะเบียนแรงงานภายในเวลา 120 วัน โดยกำหนดให้ลงทะเบียนแรงงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา และเมื่อขึ้นทะเบียนถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทยได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 เป็นเวลา 2 ปี
วันที่ 29 กรกฎาคม 2559 เป็นวันสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้แรงงานต่างชาติมาลงทะเบียน ขึ้นทะเบียนสำหรับแรงงานต่างชาติที่ประสงค์จะทำงานในราชอาณาจักรไทย มาถึงวันนี้ก็เลยกำหนดมาแล้ว แต่ก็ยังมีแรงงานบางส่วนที่ไม่สามารถลงทะเบียนไปลงทะเบียนในวันที่กำหนดดังกล่าวได้ ก็คงจะมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกันทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ยิ่งทางรัฐบาลประกาศอย่างจริงจังว่า “ไม่ขยายต่อบัตรต่างด้าว เจอผิดเป็นจับ ปรับเป็นแสน” แต่ก็พอยังมีความหวังตรงประโยคสุดท้ายที่กล่าวว่า “ต่อบัตรไม่ทันทำ MOU ได้” ก็หมายความว่า ยังพอมีช่องทางให้หวังได้ทำงานต่อ นายจ้างก็โล่งอกว่า กิจการจะไม่เสียหาย
การต่อบัตรอนุญาตการทำงาน สำหรับแรงงานที่สมบูรณ์ที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา คงเป็นหลักประกันความสบายใจทั้งผู้ประกอบการว่าการทำงานจะไม่มีปัญหาในระยะเวลาที่กำหนด ก็ไม่ต้องกังวลกับการถูกตรวจจับของเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้สามารถทำงานสร้างผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้มากขึ้น ส่วนแรงงานที่ยังไม่สามารถขึ้นทะเบียนตามเวลาทีกำหนด เนื่องจากเหตุผลนานาประการ ทั้งนายจ้างและลูกจ้างก็คงต้องรอไปอีกสักระยะ เพราะถึงอย่างไร ทางภาครัฐก็คงจะเปิดช่องทางให้ลงทะเบียนกันอีกครั้งเนื่องจากเพราะถึงอย่างไร แรงงานเหล่านี้ก็มีผลต่อการผลิตของเศรษฐกิจระดับชาติที่จำเป็นต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่ออนาคตต่อระบบเศรษฐกิจระยะยาว แต่ก็ต้องรอกันไปก่อน เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมายเพื่อความเรียบร้อยของสังคมนั่นเอง แต่ที่ชัดคือ มีแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาสู่ระบบการผลิตจำนวนมาก
เมื่อนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวมารายงานตัวขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว หลังจากวันครบกำหนดคือ หลังวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป ทางภาครัฐก็จะบังคับใช้กฎหมายกับแรงงานที่ไม่ถูกต้องทันทีตามที่หน่วยงานภาครัฐประกาศว่า

“รัฐระบุชัด... ไม่ขยาย !!! ต่อบัตรต่างด้าว
เจอผิดเป็นจับ ปรับเป็นแสน
ต่อบัตรอนุญาตไม่ทัน
29 กรกฎาคม 59 ทำ MOU ได้!”

เมื่อประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ทางภาครัฐจะเริ่มจับกุมแรงงานต่างด้าวทันที ส่วนนายจ้างที่ลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวไม่ได้รับใบอนุญาต จะจ่างแรงงานนั้นไว้ทำงานไม่ได้ มีความผิดตามพระราชบัญญัติการทำงานต่างด้าว พ.ศ.2557 มีความผิดปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท ต่อแรงงานต่างด้าวหนึ่งคน ส่วนแรงงานที่ลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิด 5 ปี และปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนรายละเอียดต่างๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานในเขตกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 – 10 ได้ในเวลาราชการ

ดังนั้น ทางภาครัฐโดยทางกรมการจัดหางานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ทำงาน ผู้ใช้แรงงานโดยตรง จึงได้ออกกฎระเบียบต่างๆ ออกมาเพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติงานให้เป็นไปในทางทางเดียวกัน ทางสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวจึงได้ออกเอกสารเพื่อให้นายจ้างและลูกจ้างแรงงานต่างด้าว สัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ได้อ่าน และได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ ชื่อว่า “ข้อควรรู้ สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา” ซึ่งประกอบด้วยกัน 3 เล่ม ที่นายจ้างและลูกจ้างต้องอ่าน คือ ข้อควรรู้สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าว ไทย – ลาว, ไทย – พม่า แบะ กัมพูชา ไว้ให้ได้ศึกษากัน โดยฉบัยนี้ขอเริ่มด้วยข้อควรรู้สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าว พม่า กันก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น