เรื่อง วัสดุอุดรอยต่อ
งานช่างเป็นการทำงานที่กี่ยวข้องกับวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือหลายอย่าง
ที่ต้องนำมาช่วยในการทำงาน
อย่างวัสดุในงานก่อสร้าง ต้องมีการต่อ การเสริม เพิ่ม ลด ถ้าสั้นก็ต้องต่อ ถ้ายาวก็ต้องตัด
แล้วก็นำมาต่อ นี้ก็เป็นเนื้องานปกติของการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นงานไฟฟ้า ประปา
ต่างก็ต้องทำการใช้วัสดุอุดรอยต่ออยู่กันเป็นประจำ เพื่อให้งานที่ข้อต่อนั้นต้องเชื่อมกันให้สนิท
การเลือกใช้วัสดุมาอุดรอยต่อนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา
ในการหาวัสดุที่ที่มีคุณภาพ เหมาะสมมาใช้งาน
วัสดุอุดรอยต่อ
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Sealant ซึ่งหมายถึง
วัสดุที่นำมาใช้ในการปิดรอยต่อ ระหว่างวัสดุกับวัสดุประเภทเดียวกัน
หรือต่างประเภทกันก็ได้ เพื่อให้วัสดุนั้นเกิดการเชื่อมต่อกันได้ดี ไม่มีรอยรั่ว
รอยร้าว หรือรอยแยก เพื่อป้องกัน รอยรั่ว ทั้งป้องกันไม่ให้น้ำ ฝุ่น อากาศ
ผ่านเข้ามาตรงช่องรอยที่ต่อนั้นได้
โดยทั่วไปแล้ววัสดุที่นำมาใช้ในการอุดรอยต่อของวัสดุกับวัสดุนี้ เรียกว่า “กาว”
และกาวที่นำมาใช้นี้ก็มีหลายประเภท หลายชนิด และมีระดับคุณภาพ ตามประเภทของการใช้งานและเรื่องของราคา ซึ่งกาวเหล่านี้ถ้านำมาใช้งานจะทำหน้าที่ในการเชื่อมหรือประสานวัตถุเข้าด้วยกัน
โดยทั่วไปแล้วกาวที่จำนำมาใช้เป็นวัสดุอุดรอยต่อนี้
ต้องมีคุณสมบัติกึ่งของเหลว
และยืดหยุ่นในตัวสามารถแทรกซึมเข้าไปบริเวณช่องว่างของรอยต่อนั้นได้แล้วค่อยแข็งตัวและขยายตัวเชื่อมวัสดุที่ต่อนั้นเข้าด้วยกัน
ติดกันอย่างสนิท ซึ่งตรงข้อต่อนั้นจะสามารถยืดหยุ่น
ขยับตัวได้เล็กน้อย ซึ่งคุณสมบัติตรงนี้เองจะทำให้วัสดุที่ต่อกันนั้นไม่แตกร้าว
ในงานก่อสร้างการใช้วัสดุอุดรอยต่อ
นับว่ามีความสำคัญไม่ด้อยกว่างานอื่น ในงานโครงสร้างทุกประเภท เพราะรอยต่อแต่ละช่วงนั้น
จะต้องสอดคล้องกับการออกแบบที่วางไว้ (Construction)โดยเฉพาะการต่ออุดรอยต่อระหว่างโครงสร้างที่มีลักษณะการออกแบบ แบบยาวของงานโครงสร้างที่ต่อเนื่องกัน
จึงจำเป็นต้องต่อและอุดรอยต่อวัสดุนั้น เพื่อให้เป็นไปตามแบบและขณะเดียวกันและเป็นการรองรับการหดตัว
การขยายตัวของวัสดุที่เป็นโครงสร้างของงานนั้นด้วย
ยกตัวอย่าง ในการออกแบบงานของสถาปนิก
ในรายละเอียดของการออกแบบโครงสร้างนั้นจะจุด มีมุมต่าง ๆ ที่จะเป็นรอยต่อของวัสดุเกิดขึ้นมากมาย
ที่งานโครงสร้างภาคสนามต้องใช้วัสดุเข้ามาอุดรอยต่อนั้นเพื่อให้งานจบตรงตามแบบ
อย่างเช่น งานประเภทบานประตู
หน้าต่าง งานอลูมิเนียม งานผนังที่ก่อฉาบปูน
รอยต่อระหว่างฝ้าเพดานกับตัวผนัง
งานรอยต่อในข้อต่าง ๆ
ของฟอร์นิเจอร์ และอื่น ๆ
อีกมากมาย ซึ่งเราจะเห็นว่าการใช้วัสดุอุดรอยต่อนั้นมีความจำเป็นอย่ามาก
ในงานก่อสร้างทุกประเภท
ส่วนวัสดุในวงการช่างก่อสร้าง
ในนำวัสดุอุดรอยต่อมาใช้ในงานนั้น
มีหลายชนิด และได้แบ่งออกตามคุณสมบัติของการใช้งาน มีดังนี้
อะคริลิก (ACRYLICSEALANT)
อะคริลิก เป็นวัสดุอุดรอยต่อ
ที่มีส่วนผสมของวัสดุโพลิเมอร์ ประเภท
คาร์บอน โฮโดรเจน และอ๊อกซิเจน
โดยใช้น้ำเป็นส่วนผสม ในการทำลาย (Water Based)ให้ละลายตัว
และเมื่อแข็งตัวจะไม่ละลายอีกอะคริลิกจะมีคุณสมบัติคล้าย ๆ
กับแป้งกาวลาแท๊ก (Latex)ที่ใช้ติดกระดาษทั่วไป แต่อะคริลิก
ในวงการช่างเรียกว่า แด็ป(DAP)ส่วนชื่อ อะคริลิก
เป็นชื่อผลิตภัณฑ์ เจ้าแรก ที่นำมาจำหน่วยในท้องตลาด และต่อมาก็มีผลิตภัณฑ์ที่ชื่อยี้ห้ออื่น แต่มีคณสมบัติการใช้งานเหมือนกัน แต่ก็เรียกติดปากว่า
แด็ป (DAP) เหมือนกับผงซักผ้าและทำความสะอาด แม้จะซื้อยี้ห้ออื่น แต่ก็ยังเรียกว่า แฟ็บ
อยู่นั้นเอง
อะคริลิก
มีคุณสมบัติในการใช้งานคือ มีความยืดหยุ่น มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม ดินฟ้า
อากาศได้น้อย คือข็งตัวเร็ว
จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่อุดรอยต่อวัสดุที่ต้องการงานด่วน งานเร็ว
และมีเวลาค่อนข้างจำกัด
ดังนั้นช่างจึงนิยมนำมาใช้ในงานอุดรอยต่อภายในของงานเฟอร์นิเจอร์
และงานตกแต่งภายใน อื่น ๆ ด้วยจุดเด่นของอะคริลิก
มีคุณสมบัติแห้งเร็ว ประสานวัสดุได้ดี
ง่ายต่อการขัดและแต่งผิวของวัสดุตรงรอยต่อ
แล้วทาสี พ่นสีทับได้เรียบง่าย กลมกลืน เงางาม นั้นเอง
นอกจากนั้นอะคริลิกยังสามารถใช้ได้กับวัสดุผิวขรุขระและผิวเรียบ
โดยมีขายในท้องตลาดทั่วไปราคาไม่แพงแต่ก็มีหลายราคาหลายเกรดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมแต่ละประเภทการใช้งานและงบประมาณด้วยที่ต้องการ
ในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อบางยี่ห้อพบเป็นหลอดทรงกระบอกปลายแหลมเพื่อใช้สำหรับงานช่ในช่องลึกเล็กๆได้อีกด้วย
โพลียูรีเทน
โพลียูรีเทน
(PolyureThane) หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า พียู ( PU) เป็นสารเคมีประเภทพลาสติก เทอร์โมเซต คือ เป็นวัสดุที่ไม่สามารถหลอมเหลวขึ้นมาใหม่ได้
สารประเภทนี้ต้องใช้น้ำมันเป็นตัวเร่งทำให้เกิดการละลายโดยเป้าหมายผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ยางจากธรรมชาติ
โพลียูริเทนนี้ป็นสารประกอบอินทรีย์
ถ้านำไปเผาไฟจะเกิดการหดตัว ย่อยสลายง่าย
ขณะเดียวกันก็จะเกิดควันสีดำ
เมื่อถูกละลายด้วยน้ำมันจะมีลักษณะยืดหยุ่น
ผิวยุบมีความทนต่อสภาพแวดล้อมและความร้อนในระดับปานกลางเมื่อแข็งตัวแล้วสามารถปรับแต่งผิวรูปทรงและทาสีได้
โพลียูรีเทนนำไปใช้ได้กับวัสดุผิวเรียบและผิวขรุขระไม่เป็นอุปสรรคใดๆแม้วัสดุนั้นจะมีฝุ่นเกาะติดก็ตาม
ส่วนราคาขายในท้องตลาดจะมีราคาสูงกว่าอะคริลิคเนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความพิเศษที่สามารถใช้ได้
กับวัสดุที่มีผิวไม่สะอาดและมีฝุ่นเกาะได้ดี จึงเหมาะกับการอุดต่อวัสดุที่อยู่ภายนอกได้ดี แต่บางครั้งก็มีจุดด้อย คือไม่สามารถทนต่อรังสี
UV ได้มากนะ ถ้าใช้ไปนานๆ ต้องบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด จะเกิดรอยเสื่อมสภาพอย่างน้อยประมาณ 3-4 ปี
ผลิตภัณฑ์ยูรีเทน จะมีหลายยี่ห้อที่วางจำหน่ายในท้องตลาด มีให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมเรื่องราคาจะอยู่ตรงกลางหมายความว่าจะราคาสูงกว่าอะคริลิคแต่ราคาต่ำกว่าซิริโคน(Silicone Sealant)
ซิลิโคน
(Silicone
Sealant)
ถ้าเราพูดถึงส่วนมากจะนึกถึงทางศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามของผู้หญิงหรือบรรดาพวกแปลงเพศที่นิยมใช้ซิลิโคนมาทำจมูกเสริมหน้าอกแต่ละวงการก่อสร้างก็มีการนำซิลิโคนมาใช้งานเช่นกัน แต่อาจจะใช้แยกประเภทหรือแยกตามคุณสมบัติของการใช้งาน
เครื่องซิลิโคนที่นำมาใช้ในงานช่าง งานอุตสาหกรรมก่อสร้างจะเป็นวัสดุประเภทอุตรอยต่อที่ทำมาจากพวกโพลิเมอร์ ที่มีองค์ประกอบของซิลิคอน คาร์บอน
ออกซิเจน และไฮโดรเจน
ซึ่งเป็นสารประกอบประเภทอนินทรีย์ ( Inorrganic Based)
เป็นสารที่อยู่ในรูปกึ่งของเหลว
มีความยืดหยุ่นสูงโดยวงการก่อสร้างหรือช่างที่นำมาใช้เป็นวัสดุอุดรอยต่อหรืออุดรอยรั่วมีว่าซิลิโคนเนื่องจากมีคุณสมบัติสามารถนำมาใช้กับงานได้สารพัดประโยชน์มากมายจึงเรียกกันต่อมาจนเคยชินว่าซิลิโคน อย่างไรก็ตามเนื้อสารของสิริโคน นั้นจะไม่สามารถประสานวัสดุได้อย่างสมบูรณ์ ถ้านำไปใช้งานกับวัสดุที่มีฝุ่นละออง หรือวัสดุที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อน จะส่งผลให้ซิลิโคนไม่สามารถ
เกาะติดกับวัสดุ นั้นได้อย่างคงทน
ส่วนเรื่องราคาสูงกว่าวัสดุอื่นอื่นๆที่ได้กล่าวมาแล้ว
เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีกว่ามีคุณภาพดีกว่า มีคุณสมบัติคงทนต่อรังสีแสงแดดได้มาก อีกทั้งมีความยืดหยุ่นต่องานก่อสร้างได้ดี
โดยเฉพาะงานเข้าขอบประตูหน้าต่างหรือขอบกระจกมีความทนต่อสภาพแวดล้อมได้มากแต่มีข้อด้อยเพียงเล็กน้อย คือต่อในกาประสิทธิภาพการใช้งานจะลดลง ถ้าใช้งานกับวัสดุที่มาสะอาด มีคราบหรือฝุ่น มีสิ่งสกปรกปนเปื้อน
ในปัจจุบัน
ซิลิโคนที่นำมาใช้ในวงการก่อสร้างหรือช่างนั้นแบ่งออกเป็น 2
ประเภทมีแบบที่มีกรดและแบบที่ไม่มีกรด
ประเภทไม่มีกรด (Neutral Cure) ซิลิโคนประเภทนี้จะมีฤทธิ์เป็นกลางเนื้อของวัสดุจะออกสีใส ดูขุนมั่ว ไม่ค่อยสดใส เมื่อใช้งานจะมีปฏิกิริยาแข็งตัวช้า เมื่อแห้งแล้วจะแข็งคงทนน้อยแต่มีความยืดหยุ่นได้ดี
ประเภทมีกรด (AectieCure) วัสดุประเภทนี้เราจะสังเกตได้จากกลิ่น
ในขณะเปิดออกใช้งานจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเมื่อละหวยออกมาให้สัมผัสได้มีคุณสมบัติแข็งตัวเร็ว
ติดแน่น เร็วเพียงไม่กี่วินาที
เหมาะสำหรับใช้งานประเภทตกแต่งเข้ารูปรอยต่อกระจกต่อกระจกอลูมิเนียมต่อกับอลูมิเนียมจะมีแรงยึดติดเกาะแน่นแข็งแรง
ดังนั้นการนำวัสดุประเภทอุดรอยต่อมาใช้ในการทำงานช่างก็ควรที่จะศึกษาคุณสมบัติของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ
ก่อน เพราะว่าแต่ละประเภท ของผลิตภัณฑ์จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ว่าเมื่อใช้กับวัสดุนั้นนั้นจะ มีผลต่อคุณภาพ ประสิทธิภาพของงานได้ดี อย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------